เนื่องจากในปัจจุบัน ได้มีการใช้กระดาษมากขึ้น ไม่ว่าจะการใช้กระดาษทำเอกสารของสำนักงานต่างๆ และใบความรู้ที่ครูอาจารย์แจกนักเรียน อีกทั้งจำพวกหนังสือพิมพ์หรือสิ่งพิมพ์ต่างๆ ก็ล้วนแต่เป็นกระดาษด้วยกันทั้งสิ้น การใช้กระดาษเป็นปริมาณมาก ส่งผลกระทบให้ปริมาณกระดาษที่เหลือใช้นั้นมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
กระดาษสาเป็นกระดาษชนิดหนึ่ง ที่ทำมาจากต้นกระดาษสาซึ่งต้นปอสา เป็นพืชเส้นใยในตระกูลเดียวกับหม่อนและขนุนนิยมปลูกมากในภาคเหนือ ต่อมาได้มีการนำกระดาษสามาจัดทำเป็นลวดลายและมีสีต่างๆ อย่างหลากหลาย แล้วนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ตัวอย่างเช่นกระดาษห่อของขวัญ ปกสมุดไดอารี่ ถุงกระดาษ ฯลฯ อีกทั้งในปัจจุบันกระดาษสานอกจากจะมีราคาแพงและมีความสวยงามแล้ว ยังเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยม โรงเรียนระหานวิทยาจึงมีแนวคิดที่จะนำกระดาษเหลือใช้ที่มีเป็นจำนวนมากมาทำเป็นกระดาษสาเพื่อเป็นการลดปริมาณกระดาษที่เหลือใช้ และเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับกระดาษเหล่านั้น
รายละเอียดการดำเนินงาน
1. ประชุมคณะครูผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำแผนการดำเนินงานกิจกรรมกระดาษสาจากกระดาษขยะ
2. รับสมัครคณะทำงาน โดยมีเจ้าหน้าที่ ดังนี้
2.1 ครูที่ปรึกษากิจกรรม จำนวน 1 คน
2.2 เจ้าหน้าที่รับบริจาคขยะ จำนวน 2 คน
2.3 เจ้าหน้าที่แปรรูปขยะกระดาษเป็นกระดาษสา จำนวน 4 คน
2.4 เจ้าหน้าที่จดบันทึกจำนวน 1 คน
2.5 เจ้าหน้าที่คิดเงิน จำนวน 1 คน
2.6 เจ้าหน้าที่บัญชี จำนวน 1 คน
3. คณะกรรมการมีการประชุมทุก ๆ ต้นเดือนเพื่อเตรียมงาน
4. จัดเตรียมสถานที่รับบริจาคขยะกระดาษ
5. ประชาสัมพันธ์กิจกรรม
6. ดำเนินการตามแผนการดำเนินงาน
7. ติดตามและประเมินผล
ขั้นตอนการทำกระดาษสา
ขั้นตอนที่ 1 การเตรียมวัตถุดิบ
คัดเลือกเปลือกปอสาที่อ่อนและแก่แยกจากกัน นำไปแช่น้ำประมาณ 3 ชั่วโมงขึ้นไป แต่ไม่ควรเกิน 24 ชั่วโมง การแช่น้ำจะช่วยให้เปลือกปอสาอ่อนตัว จากนั้นนำไปใส่ภาชนะต้ม ใส่โซดาไฟ หรือน้ำด่างจากขี้เถ้า เพื่อช่วยให้โครงสร้างของเปลือกปอสาเปื่อย และแยกจากกันเร็วขึ้น ถ้าต้มปอสาอ่อนใช้โซดาไฟน้อย ต้มเปลือกแก่ต้องใช้มากขึ้น การต้มแต่ละครั้งใช้โซดาไฟ ประมาณ 10 - 15% ของน้ำหนัก ถ้าใช้มากไปจะทำให้เยื่อถูกทำลายมากในระหว่างต้ม เมื่อต้มเสร็จแล้วนำปอสาล้างน้ำจนหมดด่าง
ขั้นตอนที่ 2 การทำให้เป็นเยื่อ
การทำให้เป็นเยื่อ มี 2 วิธี ได้แก่
2.1 การทุบด้วยมือ
2.2 การใช้เครื่องตีเยื่อ
การทุบด้วยมือต้องใช้เวลานาน ปาสาหนัก 2 กก. ใช้เวลาทุบนานประมาณ 5 ชั่วโมง ส่วนการใช้เครื่องตีเยื่อใช้เวลาประมาณ 35 นาที
จากนั้นนำไปฟอกเยื่อกระดาษสาทั่วไปฟอกไม่ขาวนักแต่ถ้าต้องการให้กระดาษสาสี ขาวมาก ๆ ก็ใช้ผงฟอกสีเข้าช่วย ได้แก่ Sodium hypo chloride หรือ Calcium hypo chloride ประมาณ
1 : 10 โดยน้ำหนักผสมในเครื่องตีเยื่อ ฟอกนานประมาณ 35 นาที ถ้าไม่มีเครื่องตีเยื่อ ก็ใช้น้ำยาฟอกเข้มข้น 15 กรัมต่อน้ำ 1 ลิตร แช่เยื่อลงในน้ำยาฟอกนานประมาณ 12 ชั่วโมง นำเยื่อไปล้างน้ำจนหมดกลิ่นน้ำยาแล้ว จะนำเยื่อไปย้อมสีตามต้องการ จากนั้นนำเยื่อเตรียมไว้สำหรับทำแผ่นกระดาษต่อไป
ขั้นตอนที่ 3 การทำเป็นแผ่นกระดาษ
นำเยื่อปอสาใส่ในอ่างหรือภาชนะที่เหมาะสม ใส่น้ำให้มีระดับพอเหมาะแล้วใช้ไม้พายคนเยื่อในอ่างน้ำให้ทั่ว เพื่อให้เยื่อลอยตัวและกระจายออกจากกันอย่างสม่ำเสมอ จากนั้นนำแม่พิมพ์สำหรับทำแผ่นกระดาษมาช้อนเยื่อต่อไปซึ่งมีการทำแผ่นได้ 2 วิธีคือ
3.1 แบบตัก ใช้แม่พิมพ์ซึ่งมีลักษณะเป็นตะแกรงไนล่อนขนาดกว้าง 50 ซม. ยาว 60 ซม. ( ขนาดตะแกรงขึ้นอยู่กับขนาดกระดาษที่ต้องการ ) ช้อนตักเยื่อเข้าหาตัวยกตะแกรงขึ้นตรง ๆ แล้วเทน้ำออกไปทางด้านหน้าโดยเร็ว จะช่วยให้กระดาษมีความสม่ำเสมอ
3.2 แบบแตะ มักใช้ตะแกรงที่ทำจากผ้าใยบัวหรือผ้ามุ้ง ซึ่งมีเนื้อละเอียดและใช้วิธีชั่งน้ำหนักของเยื่อ เป็นตัวกำหนดความหนาของแผ่นกระดาษ นำเยื่อใส่ในอ่างน้ำใช้มือแตะเกลี่ยกระจายเยื่อบนแม่พิมพ์ให้สม่ำเสมอ
ขั้นตอนที่ 4 การลอกแผ่นกระดาษ
นำตะแกรงไปตากแดดประมาณ 1 - 3 ชั่วโมง กระดาษสาจะแห้งติดกันเป็นแผ่น จึงลอกกระดาษสาออกจากแม่พิมพ์ เปลือกปอสาหนัก 1 กก. สามารถทำกระดาษสาได้ประมาณ 10 แผ่น และกระดาษสาที่ได้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง มีการตัดแปลงมาใช้ทำสิ่งของต่าง ๆ มากขึ้น แต่เดิมส่วนใหญ่ใช้ทำร่ม ว่าว กระดาษห่อของ กระดาษแบบเสื้อ กระดาษที่ใช้เขียนพุทธประวัติ คัมภีร์ ฯลฯ เป็นต้น ปัจจุบันนำมาใช้อย่างกว้างขวาง เช่น สมุดจดที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ กระดาษเขียนจดหมายพร้อมซองบัตรอวยพรต่าง ๆ ดอกไม้ประดิษฐ์ โคมไฟ กระดาษเช็ดมือ กระดาษชำระใช้ซับเลือด กระดาษห่อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ก่อนนำไปฆ่าเชื้อโรค ฯลฯ ทำให้กระดาษสาเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางมากขึ้นใน ปัจจุบันวิธีการทำกระดาษสา ดังนี้
4.1 เพียงนำเปลือกต้นปอสามาแช่น้ำทิ้งไว้ราว 6 – 8 ชั่วโมง จากนั้นนำเปลือกที่แช่น้ำไปต้มรวมกับขี้เถ้าหรือโซดาไฟอีก 4 - 6 ชั่วโมง จนกระทั่งเปื่อยยุ่ยดีแล้ว นำไปแช่คลอรีน 6 - 8 ชั่วโมง
4.2 ปอสาที่ผ่านขบวนการต้มแล้วนำมาทุบด้วยค้อนไม้ให้เส้นใยเปื่อยยุ่ยยิ่งขึ้น
4.3 เมื่อปอสาเปื่อยยุ่ยดีแล้วนำไปแช่น้ำในถังซีเมนต์ขนาดใหญ่เพื่อใช้ตะแกรงตัก
4.4 พักตะแกรงไว้เพื่อให้สะเด็ดน้ำ ในขั้นตอนนี้อาจทำลวดลายเพิ่มโดยการนำดอกไม้ ใบไม้ไปแซมลงในกระดาษ
4.5 นำตะแกรงกระดาษสาไปตากแดดจนแห้งสนิท 1 ตะแกรง จะได้กระดาษ 1 แผ่น
4.6 เมื่อแห้งดีแล้วลอกกระดาษสาออกจากตะแกรงทีละแผ่น
ผลการดำเนินงาน
1. นักเรียนโรงเรียนระหานวิทยามีความรู้ความเข้าใจ และตระหนักถึงความสำคัญของการนำขยะกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ และนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน
2. นักเรียนแกนนำมีทักษะ เข้าใจ และรู้วิธีการทำกระดาษสา รวมไปถึงการทำบัญชีรายรับ รายจ่าย
3. โรงเรียนเกิดการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงกับกระบวนการทางวิทยาศาสตร์จากการทดลองในการทำกระดาษสา บูรณาการกับวิชาสังคมศึกษาในกระบวนการของการบริหารจัดการกิจกรรมกระดาษสาจากขยะกระดาษ
ประโยชน์ที่ได้รับ
1. สามารถนำกระดาษที่ใช้แล้วหรือกระดาษที่นำกลับมาใช้ใหม่ มาทำเป็นกระดาษสา เอาไปใช้ประโยชน์ได้ต่อ เช่น การนำไปทำสิ่งประดิษฐ์ ทำปกหนังสื่อ หรือตกแต่งห้องเรียน เป็นต้น
2. ช่วยโรงเรียนลดปริมาณของขยะประเภท กระดาษ ต่างๆ ได้
3. โรงเรียนมีฐานการเรียนรู้เพื่อให้ความรู้กับนักเรียน และผู้ที่สนใจในเรื่อง การทำกระดาษสา